วันอังคารที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

เสริมหน้าอก เพื่อยกอกสวยอย่างถาวร Breast augmentation


เสริมหน้าอก เพื่อยกอกสวยอย่างถาวร

 

คนสมัยนี้ไม่ว่าหญิงหรือชายต่างก็ให้ความสำคัญกับเรื่องความสวยความงามกัน ทั้งนั้น  การผ่าตัดเพื่อเสริมแต่งความงามตามส่วนต่างๆ ของร่างกายก็เลยกลายเป็นเรื่องธรรมดาไปเสียแล้ว โดยเฉพาะการผ่าตัดเสริมทรวงอก(เสริมหน้าอก) นั้นมีผู้หญิงนิยมทำกันค่อนข้างมากทีเดียว เพราะเป็นการช่วยเสริมทำให้บุคลิกภาพดีขึ้น และมีความมั่นใจในการใส่เสื้อผ้าได้มากขึ้นด้วย
การเสริมหน้าอก (Breast Augmentation) คืออะไร ?
เป็นการผ่าตัดเพื่อเพิ่มขนาดของเต้านมให้มีขนาดใหญ่ขึ้น ซึ่งการเพิ่มขนาดหน้าอกนี้ก็ช่วยให้รูปร่างดีขึ้น หรือเพื่อเป็นการเพิ่มขนาดของเต้านมหลังจากมีบุตร หลังการให้นมบุตร  เต้านมอาจจะมีความตึงน้อยลง เพื่อแก้ไขขนาดที่แตกต่างของเต้านมทั้งสองข้าง  แก้ไขรูปทรงที่ผิดปกติ
ใครควรเสริมหน้าอก (เพิ่มขนาดเต้านม) ?

ผู้ที่จะเสริมหน้าอก หรือ เพิ่มขนาดเต้านม ต้องมีความต้องการที่จะให้รูปร่างดูดีขึ้น ผู้นั้นควรจะมีสุขภาพที่แข็งแรง แต่ต้องไม่หวังมากเกินไปว่ารูปร่างจะดูสมบูรณ์แบบไม่มีที่ติ
ชนิดของวัสดุที่ใช้เสริมหน้าอก มีอะไรบ้าง
1. ซิลิโคนเหลว (Silicone Gel Implants) คือ เจลอิลาสตินที่บรรจุอยู่ในถุงซิลิโคน หรือสารที่มีคุณสมบัติยืดหยุ่นแบบยางธรรมชาติ มีลักษณะของ เปลือกอาจจะเป็นผิวเรียบ หรือผิวขรุขระ ทำงานโดยการสอดเข้าไปภายในทรวงอกหลังการผ่านการอัลตราซาวด์ เพื่อหาตำแหน่งที่เหมาะสม ซึ่งซิลิโคลเจลจะมีขนาดที่แตกต่างตามความต้องการของคนไข้
ข้อดีคือ
-ดูเป็นธรรมชาติ ยับย่นได้ยาก สามารถขยับเคลื่อนไหวได้ 
-การใช้วัสดุชนิดนี้นั้นหลังผ่าตัดเสร็จแล้ว พักเพียง 1 คืนก็สามารถกลับไปทำกิจกรรมได้ตามปกติ
-หากไม่มีภาวะแทรกซ้อน อาจอยู่กับตัวได้ในระยะยาวและไม่เสี่ยงต่อโรคมะเร็ง
ข้อควรระวัง
-ถ้าพังพืดที่หุ้มรอบถุงไม่แตก อาจจะไม่รู้เลยว่าเกิดการรั่วขึ้น ถ้าพังพืดที่หุ้มรอบฉีกขาดซิลิโคนเหลวจะออกมานอกถุงแล้ว อาจจะเกิดพังพืดหุ้มรอบซิลิโคนนั้นใหม่ เต้านมข้างนั้นจะมีรูปร่างที่เปลี่ยนไป และอาจจะรู้สึกแข็งมากขึ้น
การผ่าตัด
โดยการสอดผ่านรักแร้  การผ่าตัดผ่านทางปานนม และการผ่าที่ฐานหน้าอก(แต่วิธีการนี้อาจทิ้งรอยแผลเป็นได้บ้าง)
2. ถุงน้ำเกลือ (Saline Implants) ลักษณะ ของถุงมีสองชั้น น้ำเกลืออยู่ชั้นนอก ถุงเจลอยู่ชั้นในและระหว่างผ่า สามารถเติมน้ำเกลือได้หลังสอดเข้าไปแล้ว วิธีการนี้จึงมีราคาสูงกว่า เพราะสามารถเพิ่มลดขนาดได้โดยไม่ต้องผ่าตัดใหม่
ข้อดี-หากมีรั่วไหล น้ำเกลือจะซึมเข้ากับร่างกายโดยไม่เป็นอันตราย
-มีรอยแผลเป็นที่เล็กกว่า และสามารถเติมน้ำเกลือได้หากต้องการ เพิ่มขนาดโดยไม่ต้องผ่าตัดใหม่
ข้อควรระวัง
-เกิดการฉีดขาดได้ง่าย หรืออาจเกิดรอยยับย่น
-อาจเห็นได้ชัดถึงรูปทรงของถุง
-เกิดการสั่นไหว กระเพื่อม หรือมีเสียงได้
-เนื้อสัมผัสต่างจากเต้านมทำให้ดูไม่เป็นธรรมชาติ

การผ่าตัด
วิธีการเสริมหน้าอกแบบ นี้ จะมีการเลือกผ่าตัดได้ 3 แบบ คือ 1. แพทย์จะสอดถุงเข้าไปก่อนแล้วค่อยเติมน้ำเกลือผ่านหลอดสุญญากาศตามจำนวนที่ กำหนดขณะผ่าตัด  2.การสอดเจลเข้าไปแล้วจึงค่อยเติมน้ำเกลือซึ่งปรับลดขนาดได้  3.การใส่ถุงน้ำเกลือที่บรรจุอยู่ในซิลิโคนที่ระบุขนาด 
3. ฉีดไขมัน (Fat Grafting) 
เป็น การนำไขมันมาจากตัวของคนไข้เอง ไม่ว่าจากต้นขาหรือช่วงบริเวณท้องอย่างไรก็ดี  วิธีการนี้ยังไม่เป็นที่รับรองถึงประสิทธิภาพอย่างแพร่หลาย เนื่องจากต้องมีไขมันมากพอและต้องฉีดบ่อยครั้งกว่าจะอยู่ตัว มากกว่านี้ หลังฉีดจะสลายตัวไป 50 เปอร์เซ็นต์ในระหว่างช่วง 6 เดือน ถึง 1 ปี และประมาณ 1-2 ปีก็จะสลายไปหมด
ข้อดี
เชื่อกันว่าวิธีการเสริมหน้าอกด้วย วิธีนี้จะเกิดผลข้างเคียงน้อย และไม่มีสิ่งแปลกปลอม ทั้งยังสามารถลดไขมันส่วนเกินได้ในเวลาเดียวกัน เนื่องจากเป็นการเคลื่อนย้ายไขมันจากส่วนอื่นของร่างกายมาฉีด
ข้อควรระวัง-ต้องอาศัยความชำนาญของแพทย์ในการเตรียมไขมันที่ถูกและฆ่าเชื้อที่เหมาะสม
-อาจไม่ได้รูปทรงของหน้าอกตรงตามที่ต้องการ
-มีการบวมแดงในระยะเริ่มแรก
-ยังไม่เป็นที่ยืนยันถึงความปลอดภัย โดยเฉพาะแคลเซียมของเซลล์ไขมันที่ตายแล้วอาจไปเกาะหน้าอกได้
การเสริมหน้าอก(เต้านม) มีความปลอดภัยแค่ไหน?
การผ่าตัดทุกชนิดมีความเสี่ยงที่เกิดจากการทำผ่าตัดทั่วไป เช่น เลือดออก,เลือดคั่ง,ติดเชื้อ แต่มีอัตราการเกิดน้อยมากประมาณ 1-3 เปอร์เซ็นต์ ผลแทรกซ้อนจากการเสริมหน้าอก(เต้านม) อาจจะเกิดการรัดตัวของพังผืดที่อยู่รอบเต้านม ทำให้เกิดความรู้สึกแข็งผิดปกติของเต้านมข้างนั้นบางครั้งอาจจะมีความรู้สึก เสียว,ชา บริเวณหัวนมหรือบริเวณใกล้รอยผ่าตัด ซึ่งส่วนใหญ่จะดีขึ้นเป็นปกติได้ แต่บางคนก็อาจจะรู้สึกเช่นนั้นตลอดไป ผู้ที่ได้รับการเสริมหน้าอก(เต้านม) สามารถให้นมบุตรได้
การวางแผนสำหรับการผ่าตัดเสริมหน้าอก ควร มาพบแพทย์ที่มีความชำนาญก่อน เพื่อให้แพทย์ที่มีความชำนาญตรวจร่างกายให้ และสภาพเต้านมของท่าน ตลอดจนการพูดคุยซักถาม และบอกความต้องการของคุณต่อแพทย์เพื่อแพทย์จะได้บอกรายละเอียดของการทำผ่า ตัดเสริมหน้าอกต่อท่าน
หลังผ่าตัดเสริมหน้าอก
ท่านจะรู้สึกตึงปวดได้บ้างประมาณ 2-3 วัน หลังผ่าตัดเสริมหน้าอกแล้ว รูปร่างของเต้านมจะดูเป็นธรรมชาติประมาณ 1-2 เดือน ท่านอาจจะต้องนวดเต้านมที่เสริมตามคำแนะนำของแพทย์อีกประมาณ 3-6 เดือน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น